ร้อยไหมละลาย (Thread Rejuvenation)
ร้อยไหมละลาย (Thread Rejuvenation)
ยกกระชับ ปรับหน้าเรียวสวย V-Shape พร้อม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง ยกกระชับ และยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
ฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ อมชมพู อย่างเป็นธรรมชาติ
การร้อยไหม คือ เทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับ เต่งตึง เข้ารูป รวมทั้ง สามารถช่วยในเรื่องของการปรับโครงหน้า หรือแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น ยกหางคิ้ว หางตา เก็บเหนียงใต้คาง ลดรอยย่นบนหน้าผาก อีกทั้งยังฟื้นฟูสภาพผิวด้วยการนำเส้นไหมชนิดพิเศษมาร้อยเข้าใบบริเวณใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่มีผลทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม ซึ่งทิศทางการร้อยของเส้นไหมที่สานกันเป็นร่างแห จะทำให้เกิดแรงตึง แรงยกกระชับในชั้นผิวหนัง ใบหน้าจึงดูเต่งตึง ยกกระชับขึ้นหลังการร้อยไหม โดยเห็นผลครั้งแรกหลังทำภายใน1- 2อาทิตย์ และเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในอีก 1-2 เดือนถัดมา วิธีนี้ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีแผลขนาดใหญ่ อาจมีรอยเข็มเล็กๆ เท่านั้น หลังทำจึงไม่ต้องพักฟื้น ล้างหน้า แต่งหน้า ทาครีมได้ตามปกติ แต่อาจมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็จะค่อยๆ ลดเลือนหายไป
*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ร้อยไหมละลายช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
- ยกกระชับหน้าเรียว
- ยกร่องแก้ม
- ยกร่องมุมปาก
- ยกกระชับแก้ม
- ยกกระชับริ้วรอยหางตา
- ยกกระชับหน้าผาก
- ยกกระชับหน้าท้อง
- ยกกระชับคาง

การร้อยไหม มีกี่ประเภท? มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?
การร้อยไหม จะแบ่งความแตกต่าง โดยขึ้นอยู่กับไหมที่ใช้ ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ
1. ไหม Aptos threads หรือ Feather-Lift ไหมชนิดนี้เป็นไหมที่ไม่ละลาย ("monofiliment material" "polypropylene")
มีลักษณะเป็นก้างปลา ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะมักเกิดปัญหา เมื่อใช้ไปเป็นระยะนานๆ ตัวก้างปลามักจะหัก ทาให้ผิวให้ผิวหน้าที่เคยตึง กระชับ กลับมาหย่อนคล้อยลงได้อีก หรือ อาจมีแง่งไหมโผล่ออกจากผิว ทาให้ต้องไปผ่าเอาออก
2. ไหมทอง หรือ Gold Thread เป็นการนาไหมที่ทาด้วยทองคาบริสุทธิ์ 99.99% ขนาดประมาณเส้นผม ร้อยเป็นลักษณะโครงตาข่ายในชั้นผิวหนัง ซึ่งไหมทองจะช่วยกระตุ้มการสร้างคลอราเจนและผังพืดใต้ชั้นผิวได้ดี แต่การร้อยไหมโดยใช้ไหมทอง ก็ข้อจำกัดคือมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และหลังร้อยไหมแล้วต้องหลีกเลี่ยงการทาเลเซอร์บางตัว เพราะเลเซอร์บางตัวอาจทาให้ไหมทองขาดได้ และไม่เหมาะในผู้ที่แพ้โลหะ เพราะอาจทาให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย เมื่อเกิดการแพ้แล้ว อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด ข้อจากัดอีกข้อ คือ ไหมทอง สามารถอยู่ในร่างกายเราได้ 8 ‟ 15 ปี เลยทีเดียว ซึ่งถือว่านานมาก ถ้าคุณ กังวลเรื่องสารตกค้าง ก็ควรเลี่ยงวิธีนี้จะดีกว่า
3. ไหม PDO (polydioxanone) หรือไหมละลาย ข้อดีคือ ไหมละลายสามรถละลาย หายไปเอง ภายใน 6-8 เดือน แต่ช่วยกระชับผิว ได้ 2-3 ปี ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง ไหมละลายเป็นไหมที่ใช้ในการเย็บกล้ามเนื้อหัวใจ และหลอดเลือด ดังนั้นโอกาสแพ้เกือบ 0% ซึ่งน้อยมาก และการร้อยไหมชนิดนี้ ราคาจะถูก เห็นผลหลังทาทันที่ 20 ‟ 30% จากนั้นต้องรอ 6 ‟ 8 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลเต็มที่ ข้อดีอีกข้อ คือ หลังจากร้อยไหมเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปทางานได้เลย หรือหากมีรอยช้าบ้าง สามารถทาแป้ง หรือใช้คอนซีลเลอร์ปิดทับได้เลย
การร้อยไหม เหมาะกับใคร?
ถ้าปัญหาความงามเกิดได้กับทุกวัย การร้อยไหม ก็เหมาะกับทุกวัยเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นสาววัยรุ่น หรืออายุมากขึ้น ก็สามารถร้อยไหมเพื่อกระชับผิวได้เช่นเดียวกันนอกจากเรื่องอายุแล้วผู้ที่ประสพปัญหาโครงหน้าไม่สวยไม่เข้ารูปผิวหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นได้
เส้นไหมที่ เอสเตล่า คลินิกใช้เป็น เส้นไหมแบบละลาย คุณภาพสูง ที่เรียกว่า PDO (polydioxanone) ข้อดีคือ ไหมละลายสามรถละลาย หายไปเอง ภายใน 6-8 เดือน แต่ช่วยกระชับผิว ได้ 2-3 ปี ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง เส้นไหมละลายเป็นเส้นไหมที่ใช้ใน การเย็บกล้ามเนื้อหัวใจ และหลอดเลือด ดังนั้นโอกาสแพ้เกือบ 0% ซึ่งน้อยมาก และการร้อยไหมชนิดนี้ จะเห็นผลหลังทำทันที่ 20 ถึง 30% จากนั้นต้องรอ 6 – 8 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลเต็มที่ ข้อดีอีกข้อ คือ หลังจากร้อยไหมเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปทำงานได้เลย หรือหากมีรอยช้ำบ้าง สามารถทาแป้ง หรือใช้คอนซีลเลอร์ปิดทับได้เลย
ขั้นตอนการร้อยไหม
- ทาความสะอาดใบหน้าด้วย Cleansing Milk Lotion ช่วยทาความสะอาดผิว และโอนโยนต่อทุกสภาพผิว เพื่อเตรียมพร้อมผิวในขั้นตอนการทา ร้อยไหม
- ทายาชาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 40 นาที
- เมื่อครบเวลา 40 นาที เช็ดทาความสะอาดยาชาบนใบหน้า
- เริ่มทาหัตถการร้อยไหมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาโดยประมาณ10-20นาที
- เสร็จแล้วเช็ดหน้าด้วยสาลีชุบน้าหมาดๆ
การร้อยไหมที่ เอสเตลล่า คลินิก มีความปลอดภัยสูง ด้วยเส้นไหม MIRACU ซึ่งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย อีกทั้งรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการร้อยไหม ซึ่งเป็น 1 ใน 6 แพทย์ไทยที่ได้ผ่านการฝึกอบรมด้านการร้อยไหมจัดแต่งรูปร่างใบหน้าจากประเทศ เกาหลี และยังเป็นผู้ฝึกสอนการร้อยไหมให้กับแพทย์ตามสถาบันต่างๆ อีกด้วย
*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล