ลดกราม ลดริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
ลดกราม ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
ลดริ้วรอย หน้าเรียว
ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย
ด้วยเทคนิคการฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เห็นผลชัดเจน
และปลอดภัย โดยไม่ต้องศัลยกรรม
ทีมแพทย์จากเอสเตลล่า คลินิก เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนาน ด้านเวชศาสตร์ความงามและชะลอวัย (Anti-aging Medicine) มากกว่า 10 ปี และเป็นแพทย์ผู้ฝึกสอนและอบรมด้านหัตถการและการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ให้กับกลุ่มคณะแพทย์อื่นเพื่อเสริมสร้างมาตรฐานและองค์ความรู้ เทคนิคที่ถูกต้อง ปลอดภัย เพราะความปลอดภัยมีค่าที่สุด และยังได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นวิทยากร ผู้ฝึกอบรมแพทย์สถาบันต่างๆ อีกด้วย
1. แก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น หางตาตก คิ้วตก ปรับเปลี่ยนรูปคิ้ว
ตัวยาจะออกฤทธิ์ สามารถทำให้ริ้วรอยลดเลือน และสามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงประมาณ 3-7 วัน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
2. ปรับหน้าเหลี่ยมให้เรียวสวย
จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดฉีดลดกรามไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง 2-3 เดือนหลังการฉีดลดกรามซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
3. ลดน่องให้เรียวเล็ก
หลักการเดียวกับการฉีดโบลดกรามเนื้อมุมกราม เพื่อให้หน้าเรียวขึ้น คือเมื่อฉีดโบลดกรามตัวยาเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยคลายกล้ามเนื้อน่อง เมื่อการทำงานของกล้ามเนื้อลดลง ขนาดของกล้ามที่น่องจึงค่อย ๆ เรียวเล็กลงตามธรรมชาติ เนื่องจากการใช้งานที่น้อยลง หากรู้จักเลือกใช้อย่างถูกวิธี
4. ระงับเหงื่อใต้วงแขนและฝ่ามือ
ฉีดตัวยาเข้าบริเวณใต้ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งของสารเคมี Acetycholine ที่กระตุ้นการหลั่งของเหงื่อบริเวณต่อมเหงื่อจึงช่วยลดปริมาณเหงื่อ และกลิ่นตัวได้ถึง 83% การรักษาแบบนี้ใช้เวลาสั้นมาก ประมาณ 10 นาที ก็สามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น และหลังจากการรักษาครั้งแรกประสิทธิภาพในการรักษาจะคงฤทธิ์อยู่ได้นานประมาณ 6-10 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
5. เพื่อการรักษาโรค
เช่น ตาเหล่ กล้ามเนื้อตากระตุก กล้ามเนื้อคอบิดเกร็ง ใบหน้ากระตุกครึ่งซีก
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการรักษา
1. ให้มั่นใจว่าคนที่ดำเนินการรักษาให้ท่านเป็นแพทย์ที่ได้รับอบรบทางด้าน ตจศัลยแพทย์ โดยตรง
2. ให้งดยาจำพวก แอสไพรินและ NSAID อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำการรักษา
3. ห้ามนอนราบหลังจากฉีดยาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
4. ห้ามนวดหรือคลึงหลังจากฉีด
5. ไม่ใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycoside
6. ห้ามฉีดในสตรีที่มีครรภ์ หรือให้นมบุตร และผู้ป่วยโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
โดยปกติหลังการรักษา สามารถกลับไปทำภาระกิจต่าง ๆ ได้ตามปกติ โดยตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 2-3 วัน และเห็นผลสูงสุดใน 7 วัน และจะออกฤทธิ์อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล คุณสามารถกลับมาฉีดได้เมื่อคุณต้องการ ซึ่งจะทำให้ริ้วรอยกลับมาช้าลง จากการศึกษาพบว่าการฉีดซ้ำจะทำให้การออกฤทธิ์ของตัวยาอยู่ได้นานขึ้น จึงสามารถเว้นระยะการฉีดให้นานขึ้น โดยคงผลการออกฤทธิ์เช่นเดิม
ผลข้างเคียงจากการฉีดลดกรามที่พบได้บ่อยที่สุดจะเป็นเพียงชั่วคราวในบริเวณที่ฉีดหน้าเรียวโดยอาจมีอาการ เช่น ปวด หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งสามารถปกปิดด้วยการแต่งหน้า ปวดศีรษะ บางรายอาจเกิดอาการแพ้เป็นผื่นแดง ณ บริเวณที่ฉีดหน้าเรียว แต่พบได้น้อยมาก อาการหนังตาหนัก (ตก) ซึ่งก็พบได้น้อยมากเช่นกัน และไม่มีรายงานใดที่แสดงผลข้างเคียงถาวรจากการใช้สารชนิดนี้ในการรักษา
*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ขั้นตอนการทำการรักษา
1.ทำความสะอาดใบหน้าด้วย Cleansing Milk Lotion ช่วยทำความสะอาดผิว และโอนโยนต่อทุกสภาพผิว เพื่อเตรียมพร้อมผิว
2. ทายาชาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 40 นาที
3. เมื่อครบเวลา 40 นาที เช็ดทำความสะอาดยาชาบนใบหน้า
4. เริ่มทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาโดยประมาณ 10-20 นาที
5. เสร็จแล้วเช็ดหน้าด้วยสาลีชุบน้้ำหมาดๆ
ผลแทรกซ้อนที่อาจพบได้หลังฉีด
ปวด บวม ช้ำ จ้ำเลือด บริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปได้เอง ในวันรุ่งขึ้น ไม่พบอาการแพ้อย่างรุนแรง และไม่พบว่าเป็นผลเสียต่ออวัยวะร่างกาย
การดูแลหลังฉีดหน้าเรียว
ภายหลังฉีดหน้าเรียว ควรอยู่ในท่านั่ง หรือ ยืนประมาณ 4 ชม. เพื่อกันการไหลของยาไปที่อื่น ใช้กล้ามเนื้อ คือขมวดคิ้ว บ่อยๆให้ยาจับกับตัวรับดีๆ อาจมีจ้ำเลือดเล็กๆไม่ต้องทำอะไร ไม่ควร อบซาวน่าสัก 3-4 วัน ใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ อาจมีอาการตึงหนักหน้าใน 3-4 วันเป็นปกติ ไม่ต้องกังวล โดยอาการจะหายไปใน 1-2 สัปดาห์ ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 5 วัน เต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ยิ่งฉีดหน้าเรียว หลายครั้ง ยิ่งอยู่ได้นานขึ้น ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล